วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

นิยายใหม่

ชื่อหนังสือ:

คำสาปวุ่น ลุ้นหัวใจให้ลงล็อค
ผู้เขียน:

TheLittleFinger
จำนวนหน้า:

248
ครั้งที่พิม์E/b>

1

-->
รายละเอียด:

หลังจากที่พ่อกับแม่เสียไป ฉันก็ต้องอาศัยอยู่กับปู่และยัยเจ๊ป๊อกกี้ลูกพี่ลูกน้องกะเทย ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้ แถมยังมีร้านอาหารเล็กๆ และหนี้สินใหญ่ๆ ที่พวกท่านทิ้งไว้ให้อีก โฮกกก แต่โชคยังดีที่มีมรดกตกทอดจากต้นตระกูลคนงามมาถึงฉัน โดยเฉพาะ เย่ๆ และมรดกที่ว่านั่นก็คือ คำสาปจิ้งจก ฮะ! อะไรนะ คำสาป จะ...จิ้ง...จกกก ไม่เอาๆ ช้านไม่อยากกลายร่างเป็นจิ้งจกนะ แงๆๆ เฮ้อ! ยังดีนะเนี่ยที่ปู่พอรู้หนทางแก้คำสาป ซึ่งก็คือฉันต้องทำให้ชายหนุ่ม ผู้สืบทอดตระกูลของคนที่เป็นเจ้าของคำสาปแช่งในอดีตนั่นมาตกหลุมรักฉันให้ได้ แล้วงานนี้ฉันจะเข้าหาเขาคนนั้นได้ยังไงล่ะ ก็บ้าน (เอ๊ะ...หรือวัง?) ของเขาน่ะออกจะรวยซะขนาดนั้น ฮือๆ จะทำยังไงดีล่ะ ช้านนนไม่อยากเป็นจิ้งจกเกาะฝาบ้านไปตลอดชีวิตนะยะ แงๆๆ

นิยายใหม่


ชื่อหนังสือ:

แปลงโฉมรักเปลี่ยนหัวใจยัยตัวยุ่ง
ผู้เขียน:

R e i z'
จำนวนหน้า:

136
ครั้งที่พิมพ์E/b>

1

-->
รายละเอียด:

ลาออกจากวงคัฟเวอร์ได้ไม่ทันข้ามวัน = =” ฉันก็ถูกอีตาเซย์ ผู้จัดการวงฟีนิกซ์ลักพาตัวมาขู่แกมบังคับให้ปลอมตัวเป็นกัซ หนึ่งในสมาชิกวงฟีนิกซ์ที่หายตัวไปอย่างกะทันหัน เพราะว่าฉันดันไปมีหน้าตาเหมือนหมอนั่นอย่างกับฝาแฝด O[]O!! ฮิๆ แต่ใช่ว่าฉันจะยอมทำตามคำสั่งของอีตา ผู้จัดการจอมจุ้นนั่นไปซะทุกเรื่องหรอกนะ -v- เพราะว่าฉันเองก็รู้สึกสงสัยตงิดๆ เหมือนกันว่ากัซตัวจริงหายไปไหน ฉันคงต้องลงมือสืบหาความจริงเรื่องนี้ด้วยตัวเองซะแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่มีวันได้กลับไปใช้ชีวิตสาวน้อยธรรมดาแหงๆ TT^TT

Japan

โตเกียวมีอะไรน่าเที่ยว
หลายคนที่สนใจจะไปญี่ปุ่น ไม่ว่าจะด้วยตัวเองหรือกับทัวร์ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เลยไม่พลาดโตเกียวครับ ซึ่งโตเกียวก็เป็นมหานครแห่งความศิวิลัยของญี่ปุ่นครับ ในโตเกียวมีความหลากหลาย ทั้งผู้คน ศิลปะ วัฒนธรรม และเป็นศูนย์รวมของทุกอย่าง ก็เหมือนๆกับกรุงเทพฯแหละครับ แล้วคนโตเกียวมีนิสัยที่แตกต่างตากรอบนอกอย่างเห็นได้ชัด อยู่โตเกียว เร่งรีบและรีบเร่ง หน้าตาไม่ค่อยยิ้มแย้มสักเท่าไร หากเลือกเที่ยวได้ ผมเองก็อยากเที่ยวตามบ้านนอกของญี่ปุ่นมากกว่าครับ งั้นเดี๊ยวผมจะมาเล่าให้ฟังว่าโตเกียว มันมีอะไรเด็ดๆ อยู่เหมือนกัน..

วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

รายละเอียดใบสมัครโรงเรียนนายร้อย

โรงเรียนนายร้อยตำรวจประกาศรับสมัคร
ร่วมส่งประเด็นข่าวที่น่าสนใจ คลิกที่นี่ ข่าวของท่านมีประโยชน์กับผู้อื่นอีกมากมาย
โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รับสมัครและสอบคัดเลือกข้าราชการตำรวจ เข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ประจำปีการศึกษา 2550

โรงเรียนนายร้อยตำรวจ จะทำการรับสมัครและสอบคัดเลือกข้าราชการตำรวจเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ประจำปีการศึกษา 2550 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. จำนวนที่รับ
รับจากข้าราชการตำรวจ จำนวน 40 นาย
2. พื้นความรู้และคุณสมบัติของผู้สมัคร
2.1 รับราชการตำรวจมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันแรกที่สอบข้อเขียน (6 กุมภาพันธ์2550)
2.2 สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของกระทรวงศึกษาธิการหรือเทียบเท่า
2.3 มีสัญชาติไทยโดยการเกิด และบิดามารดาผู้ให้กำเนิดมีสัญชาติไทยโดยการเกิด แต่ถ้าบิดาเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรหรือชั้นประทวน หรือเป็นข้าราชการตำรวจซึ่งมีสัญชาติไทยโดยการเกิดแล้ว มารดาจะมิใช่เป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดก็ได้
2.4 เป็นชายโสด ไม่มีความประพฤติเสื่อมเสียทางเพศ หรือติดต่อได้เสียกับหญิงถึงขั้น พอที่จะถือได้ว่าเป็นผู้มีภรรยา ไม่ว่าจะโดยทางนิตินัยหรือพฤตินัย
2.5 มีขนาดร่างกายต้องสูงไม่น้อยกว่า 160 เซนติเมตร และรอบอกไม่น้อยกว่า 77 เซนติเมตร
2.6 มีอายุไม่เกิน 25 ปี ในปีที่จะเข้ารับการศึกษาเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ การนับอายุให้นับตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร (นับปีชนปี)
2.7 ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกฟ้องหรือต้องหา หรือตกเป็นจำเลยในคดีอาญา หรือเคยต้องคำพิพากษาของศาลว่าได้กระทำผิดในคดีอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดย ประมาท หรือความผิดลหุโทษ
2.8 ไม่เป็นผู้เคยถูกถอนทะเบียน หรือพ้นจากความเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจด้วยเหตุที่ระบุไว้ในข้อบังคับโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ข้อ 62.3 หรือ ข้อ 62.4 หรือไม่เคยถูกให้ออกจากโรงเรียนหรือสถานศึกษาอื่นใด เพราะเหตุประพฤติชั่วเพราะการกระทำความผิดหรือผิดวินัย หรือมีความประพฤติไม่เรียบร้อย
2.9 ไม่เป็นผู้มีร่างกายทุพพลภาพ ไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือไม่เป็นโรคตามที่กำหนดไว้ตาม ผนวก ก ในระเบียบการและวิธีรับสมัครเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ
2.10 ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งให้พักราชการ หรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการตำรวจ หรือกฎหมายอื่น
2.11 ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออก เพราะกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการตำรวจ หรือกฎหมายอื่น
2.12 ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากองค์การของรัฐบาล หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
2.13 ไม่เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบคัดเลือก หรือสอบแข่งขันใด ๆ
2.14 เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญโดยความบริสุทธิ์ใจ
2.15 ไม่เป็นพระภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวชในศาสนาใดๆ
2.16 ไม่เป็นผู้ที่ลาออกจากราชการตำรวจยังไม่ถึง 1 ปี หรือผู้ที่ทางราชการไม่รับสมัครต่อจากวันครบกำหนดปลดกองหนุน หรือผู้ที่ถูกให้ออกจากราชการฐานหย่อนความสามารถ เนื่องจากมีความไม่เหมาะสมในการทดลองปฏิบัติราชการ
2.17 เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่บกพร่องในศีลธรรมอันดี โดยผู้บังคับบัญชารับรองความประพฤติ
2.18 ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
2.19 ไม่เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
2.20 ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
2.21 ในรอบ 12 เดือนที่แล้วมาถึงวันเปิดรับสมัคร ต้องไม่ถูกลงโทษทางวินัยสูงกว่าโทษภาคทัณฑ์
2.22 ต้องไม่อยู่ในระหว่างถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย หรือต้องหาในคดีอาญา
เว้นแต่ต้องหาในคดีอาญาอันเนื่องจากการปฏิบัติราชการตามหน้าที่
พื้นความรู้ คุณสมบัติและความประพฤติดังกล่าวนี้ ถ้าปรากฏว่าเป็นความเท็จขึ้นภายหลังรับเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจแล้วก็ตาม จะต้องถูกออกจากความเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจทันที

3. ผู้สมัครที่มีสิทธิได้รับคะแนนเพิ่มเติม
3.1 เป็นบุตรโดยกำเนิดของข้าราชการตำรวจ หรือบุคคลซึ่งถึงแก่กรรม หรือได้รับบาดเจ็บจนทุพพลภาพ หรือสูญหายตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากปฏิบัติราชการ หรือช่วยเหลือราชการปราบปรามโจรผู้ร้าย หรือผู้ก่อการร้าย หรือผู้ก่อความไม่สงบ หรืออริราชศัตรู
3.2 เป็นบุตรโดยกำเนิดของผู้ได้รับเหรียญกล้าหาญ หรือตนเองได้รับเหรียญกล้าหาญ
3.3 เป็นบุตรโดยกำเนิดของผู้ที่เป็น หรือเคยเป็นผู้บังคับบัญชา หรือครูอาจารย์โรงเรียนตำรวจ หรือสถานศึกษาอื่นใดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีหลักฐานลงประวัติว่าได้สอนมาไม่น้อยกว่า 3 ปี และปีหนึ่งต้องทำการสอนไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง
3.4 เป็นบุตรโดยกำเนิดของข้าราชการตำรวจ
กรณีตามข้อ 3.1 , 3.2 และ 3.3 เพิ่มให้ 25 คะแนน กรณีตามข้อ 3.4 เพิ่มให้ 10 คะแนน
การคิดคะแนนเพิ่มพิเศษตามข้อ 3.1 , 3.2 และ 3.3 ถ้าผู้มีสิทธิได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษตามหลักเกณฑ์หลายกรณีให้ได้รับกรณีเดียว และเมื่อรวมกับข้อ 3.4 แล้วไม่เกิน 35 คะแนน โดยให้นำคะแนนที่ได้รับเพิ่มพิเศษนี้ไปรวมกับคะแนนสอบข้อเขียนก่อนประกาศผลสอบรอบสุดท้าย

4. วิธีสมัคร
สมัครด้วยตนเอง ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

5. วัน เวลา และสถานที่ จำหน่ายระเบียบการและใบสมัคร
จำหน่ายระเบียบการและใบสมัครราคาชุดละ 50 บาท ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2549 ถึงวันที่ 15 มกราคม 2550 (เว้นวันหยุดราชการช่วงปีใหม่) ณ สถานที่ดังต่อไปนี้
5.1 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
5.2 ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธร 1 - 9
6. หลักฐานที่ใช้ในวันสมัคร
6.1 ใบสมัครตามแบบที่กำหนดไว้ ซึ่งจำหน่ายให้แก่ผู้สมัครพร้อมระเบียบการ
6.2 รูปถ่ายครึ่งตัว หน้าตรง แต่งเครื่องแบบไม่สวมหมวก ขนาด 1 x 1.5 นิ้ว จำนวน 7 รูป ต้องเป็นรูปที่ถ่ายในคราวเดียวกันไม่เกิน 3 เดือน นับถึงวันยื่นสมัคร
6.3 สำเนาประกาศนียบัตรหรือใบสุทธิ หรือระเบียนแสดงผลการเรียน (รบ.1-ป) หรือหนังสือรับรองผลการเรียน(รบ.5-ป) ซึ่งแสดงว่าสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า
6.4 สำเนาทะเบียนบ้าน (ฉบับเจ้าบ้าน) หรือสำเนาทะเบียนบ้านที่ทางราชการออกให้และรับรองสำเนาถูกต้องไว้ไม่เกิน 6 เดือน นับถึงวันปิดรับสมัครของผู้สมัคร
6.5 สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจ หรือสำเนาหนังสือรับรองของผู้บังคับบัญชา สำเนาเอกสารในข้อ 6.3 – 6.5 ให้นำฉบับจริงไปแสดงควบคู่กันด้วย หลังจากกรรมการรับสมัครตรวจสอบฉบับจริงกับสำเนาเรียบร้อยแล้วจะคืนฉบับจริงให้ กรรมการจะไม่รับสมัครหากไม่นำฉบับจริงไปแสดงและถ้าผู้สมัครมอบฉบับจริงไว้ให้หากเกิดการสูญหายกรรมการจะไม่รับผิดชอบ ข้อความสำคัญในเอกสาร หรือหลักฐานทุกฉบับที่นำไปยื่นในวันสมัครต้องถูกต้องตรงกัน เช่น วัน เดือน ปีเกิดของผู้สมัคร ชื่อ ชื่อสกุล ของผู้สมัคร และบิดา มารดา อักษร สระ ตัวสะกด การันต์ เป็นต้น หากไม่ตรงกันต้องนำเอกสารที่ทางราชการออกให้ไปแสดงประกอบยืนยัน

7. หลักฐานที่ต้องนำไปยื่นเพิ่มเติมในวันแรกที่สอบพลศึกษา
ผู้สมัครทุกคนที่มีชื่อในประกาศซึ่งเป็นผู้สอบได้รอบแรก (ข้อเขียน) ต้องนำหลักฐานต่างๆ ดังต่อไปนี้ไปยื่นเพิ่มเติมในวันแรกที่สอบพลศึกษาภายในเวลา 16.30 น. หากไม่นำไปยื่นจะถูก ตัดสิทธิไม่ให้เป็นผู้สอบคัดเลือกได้ และไม่มีการผ่อนผันให้หากหลักฐานไม่ครบ หรือไม่ถูกต้อง
7.1 สำเนาทะเบียนบ้าน (ฉบับเจ้าบ้าน) หรือสำเนาทะเบียนบ้านที่ทางราชการออกให้และรับรองสำเนาถูกต้องไว้ไม่เกิน 6 เดือนนับถึงวันปิดรับสมัคร ของบิดามารดาผู้สมัคร เพื่อตรวจสอบสัญชาติของผู้สมัครและของบิดามารดาผู้ให้กำเนิด และหากผู้สมัครมีบิดามารดาที่ชื่อสกุลไม่ตรงกัน หรือชื่อสกุลของบิดามารดาแสดงว่าน่าจะเป็นชื่อสกุลของชาวต่างประเทศ ต้องนำสำเนาหลักฐานที่ทางกระทรวงมหาดไทยรับรองการเป็นบิดามารดา หรือเป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดไปแสดง
7.2 ในกรณีที่บิดาหรือมารดาถึงแก่กรรม ให้นำสำเนาใบมรณบัตร หรือสำเนาหลักฐานอื่นของทางราชการไปแสดงสัญชาติของบิดา มารดา
7.3 ในกรณีที่ปู่หรือตาเป็นคนต่างด้าว ต้องนำสำเนาหลักฐานใบสำคัญทหารกองเกิน (สด.9) หรือสำเนาหลักฐานทางทหารของบิดา หรือสำเนาใบสูติบัตร หรือสำเนาหนังสือรับรองจาก นายทะเบียนว่าบิดา มารดาเป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดอย่างใดอย่างหนึ่งไปแสดงด้วย
7.4 สำเนาสูติบัตรของผู้สมัคร ในกรณีที่ไม่มีสูติบัตรให้นำหนังสือรับรองการเกิดจากอำเภอหรือเขต ซึ่งปรากฏ วัน เดือน ปีเกิด และชื่อบิดามารดาผู้ให้กำเนิดไปแสดง
7.5 สำเนาหลักฐานเพื่อขอรับคะแนนเพิ่มพิเศษตามข้อ 3 (ถ้ามี)
7.6 หนังสือรับรองพื้นความรู้ คุณสมบัติ และผลการสืบความประพฤติ ตามแบบในผนวก จ. ที่ผู้บังคับบัญชาไม่ต่ำกว่าผู้กำกับการหรือเทียบเท่าได้รับรองแล้ว
สำเนาเอกสารทุกฉบับให้นำฉบับจริงไปแสดงควบคู่กันด้วย (ยกเว้นเอกสารที่แสดงว่าผู้สมัครเป็นบุตรโดยกำเนิดของข้าราชการตำรวจ ตามแบบในผนวก ง. และตามข้อ 7.6 กรรมการจะยึดฉบับจริงไว้) หลังจากกรรมการรับหลักฐานได้ตรวจสอบฉบับจริงกับสำเนาเรียบร้อยแล้วจะคืนฉบับจริงให้ หากไม่นำฉบับจริงไปแสดงจะไม่มีการผ่อนผันให้ และถ้าผู้สมัครมอบฉบับจริงไว้ให้ หากเกิดการ สูญหายกรรมการรับสมัครจะไม่รับผิดชอบ
ข้อความสำคัญในเอกสารหรือหลักฐานทุกฉบับที่นำไปยื่น ต้องถูกต้องตรงกัน เช่น วัน เดือน ปีเกิด ของผู้สมัคร ชื่อ ชื่อสกุลของผู้สมัครและบิดามารดา อักษร สระ ตัวสะกด การันต์ เป็นต้น หากไม่ตรงกันต้องนำเอกสารที่ทางราชการออกให้ไปแสดงประกอบยืนยัน หากไม่นำไปแสดงจะไม่มีการผ่อนผันให้

8. กำหนดการต่าง ๆ
8.1 วันที่ 8-15 มกราคม 2550 รับสมัครที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)
8.2 วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2550 สอบรอบแรก (ข้อเขียน) ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
8.3 วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2550 ประกาศผลสอบรอบแรก ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
8.4 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2550 ตรวจร่างกาย ที่โรงพยาบาลตำรวจ
8.5 วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2550 สอบพลศึกษา ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
8.6 วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2550 วัดขนาดร่างกายและสอบสัมภาษณ์ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
8.7 วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550 ประกาศผลรอบสุดท้าย ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
8.8 วันที่ 12 มีนาคม 2550 ทำสัญญามอบตัวและผู้สอบได้สำรองฟังผลที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
8.9 วันที่ 1 เมษายน 2550 รายงานตัวเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ

9. การสอบคัดเลือก การสอบคัดเลือกกระทำเป็นสองรอบ ดังนี้.-
9.1 การสอบรอบแรก เป็นการสอบข้อเขียน วิชาที่สอบได้แก่ วิชาภาษาไทย วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายของกระทรวงศึกษาธิการ มีรายละเอียดดังนี้.-
9.1.1 วิชาภาษาไทย (คะแนนเต็ม 200 คะแนน) ขอบเขตตามเนื้อหารายวิชา ท.401,ท.402, ท.503, ท.504, ท.605, ท.606
9.1.2 วิชาวิทยาศาสตร์ (คะแนนเต็ม 200 คะแนน) ขอบเขตตามเนื้อหารายวิชา ว.421,ว.021, ว.022, ว.023, ว.024, ว.025, ว.431, ว.031, ว.032, ว.033, ว.034, ว.035
9.1.3 วิชาคณิตศาสตร์ (คะแนนเต็ม 200 คะแนน) ขอบเขตตามเนื้อหารายวิชา ค.011,ค.012, ค.013, ค.014, ค.015, ค.016
9.1.4 วิชาภาษาอังกฤษ (คะแนนเต็ม 200 คะแนน) ขอบเขตตามเนื้อหารายวิชา อ.017,อ.018, อ.019, อ.0110, อ.0111, อ.0112

9.2 การสอบรอบสอง เป็นการตรวจร่างกาย ตรวจสอบประวัติ สอบพลศึกษา สอบสัมภาษณ์ วัดขนาดร่างกาย เป็นการสอบไม่มีคะแนน ถือเกณฑ์ ได้-ตก มีรายละเอียดดังต่อไปนี้.-
9.2.1 การตรวจร่างกายและตรวจสอบประวัติ เป็นการตรวจสุขภาพและตรวจโรค ซึ่งต้องห้าม ตามที่กำหนดไว้ในระเบียบการและวิธีรับสมัครนักเรียนนายร้อยตำรวจ ผู้สมัครจะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพมหานคร ตามวันเวลาที่กำหนด ผู้ไม่ไปรับการตรวจร่างกายถือว่าสละสิทธิ ผลการตรวจร่างกายของคณะกรรมการแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ ถือเป็นเด็ดขาด จะไม่รับพิจารณาผลการตรวจร่างกายจากที่อื่นที่ผู้สมัครนำมาแสดง
9.2.2 การสอบพลศึกษา เป็นการทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย 2 ประเภท คือ
(1) วิ่งระยะทาง 1,000 เมตร ใช้เวลา 4 นาที จากจุดเริ่มต้นจนถึงเส้นชัย ถ้าวิ่งไม่ถึงหรือออกนอกลู่วิ่งก่อนครบกำหนดระยะทาง หรือทำเวลาเกินกว่ากำหนด ถือว่าสอบพลศึกษาตก
(2) ว่ายน้ำระยะทาง 50 เมตร ใช้เวลา 1 นาที 20 วินาที จากจุดเริ่มต้นจนถึงผู้สอบใช้มือหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายแตะขอบสระซึ่งเป็นเส้นชัย ผู้ที่ว่ายไม่ถึงหรือทำเวลาเกินกว่าที่กำหนด ถือว่าสอบพลศึกษาตก ผู้สมัครจะต้องสอบพลศึกษาตาม (1) และ (2) ทั้งสองอย่างให้ผ่าน จึงจะถือว่าสอบพลศึกษาได้ ผู้ที่สอบพลศึกษาตกจะไม่รับเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ โดยไม่คำนึงถึงคะแนนข้อเขียนที่สอบได้
9.2.3 การสอบสัมภาษณ์และวัดขนาดร่างกาย
เป็นการพิจารณารูปร่าง ลักษณะท่าทาง ท่วงทีวาจา ความสมบูรณ์ของร่างกาย ความองอาจ ว่องไวและปฏิภาณไหวพริบ ตลอดจนคุณลักษณะอื่น ๆ ที่เหมาะสมจะเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร
ผลการสอบถือเกณฑ์ “ได้ ” หรือ “ ตก ” เท่านั้น ผู้ที่สอบตกหมายถึง ผู้ที่มีคุณลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่เหมาะสมที่จะเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร และจะตัดสิทธิไม่รับเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ โดยไม่คำนึงถึงคะแนนการสอบข้อเขียนที่ได้
ในวันสอบสัมภาษณ์จะทำการวัดขนาดร่างกายของผู้สมัครด้วย หากผู้สมัครมีร่างกายไม่ได้ขนาดตามที่กำหนดไว้ จะหมดสิทธิสอบสัมภาษณ์ทันที

10. การประกาศผลการสอบคัดเลือก
10.1 การประกาศผลสอบรอบแรก โรงเรียนนายร้อยตำรวจจะคัดเลือกผู้ที่สอบข้อเขียนผ่านจากผู้ที่ได้คะแนนข้อเขียนรวมสูงสุดลงมาตามลำดับไว้ตามจำนวนที่ต้องการ ถ้ามีคะแนนรวมเท่ากัน ให้เปรียบเทียบคะแนนวิชาภาษาไทย วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ตามลำดับ ถ้ายังได้คะแนนเท่ากันอีก ให้ผู้ที่ได้รับเลขลำดับสมัครก่อนเป็นผู้อยู่ในลำดับที่ดีกว่า แล้วประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบรอบสอง โดยประกาศเรียงตามรหัสประจำตัวสอบ (พร้อมแจ้งลำดับที่สอบได้)
10.2 การประกาศผลสอบรอบสุดท้าย โรงเรียนนายร้อยตำรวจจะคัดเลือกผู้ที่สอบเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจได้ จากผู้ที่สอบรอบสองผ่านโดยถือคะแนนรวมสูงสุด (คะแนนสอบข้อเขียน รวมกับคะแนนเพิ่มพิเศษ (ถ้ามี)) ลดหลั่นกันลงมาตามลำดับ ถ้ามีคะแนนรวมเท่ากันให้ผู้ที่ได้คะแนนข้อเขียนสูงกว่าอยู่ในอันดับที่ดีกว่า ถ้ายังได้คะแนนข้อเขียนเท่ากันอีก ให้เปรียบเทียบคะแนนวิชาภาษาไทย วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ตามลำดับ ถ้ายังได้คะแนนเท่ากันอีก ให้ ผู้ที่ได้รับเลขลำดับสมัครก่อนเป็นผู้ที่อยู่ในลำดับที่ดีกว่า แล้วประกาศรายชื่อผู้สอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ได้ตามจำนวนที่ต้องการ โดยประกาศเรียงตามรหัสประจำตัวสอบ (พร้อมแจ้งลำดับที่สอบได้) และประกาศรายชื่อผู้สอบได้ลำดับสำรองตามลำดับที่สอบได้ไว้จำนวนหนึ่ง เพื่อเรียกเข้าแทนผู้สละสิทธิ
11. ค่าธรรมเนียมสมัครสอบ
11.1 ค่าสมัครสอบคนละ 100 บาท
11.2 ค่าตรวจร่างกาย ตามที่คณะกรรมการแพทย์กำหนด ในกรณีที่แพทย์ต้องตรวจพิเศษนอกเหนือจากการตรวจธรรมดา ผู้รับการตรวจจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งสิ้น
12. รายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆ ดูได้จากระเบียบการและวิธีรับสมัครนักเรียนนายร้อยตำรวจที่ขายพร้อมกับใบสมัครที่ผู้สมัครจะต้องซื้อไปทำความเข้าใจและปฏิบัติให้ถูกต้อง
13. คำเตือน
13.1 โรงเรียนนายร้อยตำรวจดำเนินการสอบคัดเลือกตามระบบคุณธรรม โดยยึดหลักความรู้ความสามารถและความเป็นธรรม วิธีดำเนินการทุกขั้นตอนจะเป็นรูปคณะกรรมการทั้งสิ้น ผู้สมัครจะต้องใช้ความรู้ความสามารถของตนเองเท่านั้น อย่าได้หลงเชื่อและยอมเสียทรัพย์สินให้แก่ผู้ที่อ้างว่าสามารถช่วยเหลือให้สอบได้ โปรดระวังกลุ่มมิจฉาชีพจะฉวยโอกาส หลอกลวงต้มตุ๋น
13.2 ประกาศต่าง ๆ ของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เกี่ยวกับการสอบคัดเลือกครั้งนี้จะปิดประกาศไว้ที่ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งกำหนดการต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้สมัครจะต้องติดตามประกาศที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอจะอ้างว่าไม่ทราบประกาศในภายหลังไม่ได้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โรงเรียนนายร้อยตำรวจ 90 หมู่ 7 อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73110
โทรศัพท์ 0-3431-2009/ http://www.pca.ac.th

วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ระบำสุโขทัย

ระบำสุโขทัย
เป็นระบำโบราณคดี ที่ได้สร้างขึ้นตามความรู้สึกจากแนวสำเนียงของถ้อยคำไทยในศิลาจารึก ประกอบด้วยลีลาท่าเยื้องกรายอันนิ่มนวลอ่อนช้อยของรูปภาพปูนปั้นหล่อในสมัยสุโขทัย ได้แก่ พระพุทธรูปปางสำริต และรูปภาพปูนปั้นปางลีลา รูปพระพุทธองค์เสด็จลงจากดาวดึงส์และท่าทีของพระพรหมและพระอินทร์ที่ตามเสด็จ การแสดงระบำสุโขทัย จะรำตามจังหวะดนตรีไม่มีเนื้อร้อง
นาฎยศัพท์ที่ใช้ประกอบการรำ๑. จีบหังสัสยะหัสต์ โดยการนำนิ้วหัวแม่มือจรดข้อสุดท้ายของนิ้วชี้ หักข้อนิ้วชี้ลงมา นิ้วที่เหลือกรีดดึงออกไป๒. ท่าปางลีลา เป็นท่าออก โดยมือซ้ายจีบแบบหังสัสยะหัสต์ มือขวาแบส่งไปหลังหงายท้องแขนขึ้น เอียงศีรษะด้านซ้าย ก้าวเท้าขวามาข้างหน้า เท้าซ้ายเปิดส้นเท้า๓. ท่าดอกบัว คิดจากการเคารพบูชากราบไหว้ มือทำเป็นรูปดอกบัวอยู่ระหว่างอกเป็นดอกบัวตูม ชูมือขึ้นแล้วค่อยๆบานปลายนิ้วออกเป็นบัวบาน๔. ท่าพระนารยณ์ แทนองค์พระนารายณ์ พระอิศวร ท่าจีบแบบหังสัสยะหัสต์ ตั้งวงกลางข้างลำตัว กระดกเท้าซ้าย๕. ท่ายูงฟ้อนหาง คิดจากท่านาฎศิลป์ แบมือ แขนทั้งสองตึงส่งหลัง หงายท้องแขนขึ้น๖. ท่าบัวชูฝัก คิดจากการขอพร อีกมือหนึ่งไว้ข้างสะโพก มือจีบคว่ำแล้วสอดมือขึ้น เป็นท่าสอดสูงเหนือศีรษะ๗. ท่าชะนีร่ายไม้ คิดจากมนุษย์โลกต้องการดำรงชีวิต หมุนเวียนเปลี่ยนไป โดยหมุนเป็นวงกลมแทนการเวียน ว่าย ตาย เกิดมือข้างหนึ่งตั้งวงสูง มืออีกข้างหนึ่งหงายท้องแขน ลำแขนตึง แบมือและชี้ปลายนิ้วลง มองมือสูง

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เนื้อเพลงน้อยใจยาของจรัญ,สุนทรี

( ช ) ปวง... ดอกไม้เบ่งบานสลอนฝูงภมรภู่เผิ้งสอดไซ้ดอกพิกุลของเปิ้นต้นใต้ลมปั๊ดไม้มาสู่บ้านตู๋ฮู้แน่ซัดเข้าสอดสองหูว่าสีจมปูถูกป้ำเก๊าเนิ้งเก๊ามันต๋ายป๋ายมันมันเซิ่งลำกิ่งเนิ้งต๋ายโก้นตวยแนวดอกพิกุลก่คือดอกแก้วไปเป๋นหองเปิ้นแล้ว เนอ ...( ญ ) แต๋ม เก๊าเนิ้งกิ่งมันบ่ถอนบ่ไหวคอนเฟือนเตี้ยงมั่นแต๊เล่าต๋ามกำลมเปิ้นปั๊ดออกเข้ามีแต่เก๊าไหวหวั่นคอนเฟือนกิ่งมันแต๊บ่แสเสลือนบ่เหมือนลมเจยรำเพยก่จะนั้นใจ๋คำญิง นี้หนิมเตี้ยงมั่นบ่เป๋นหองเปิ้นคนใดยังเป๋นกระจกแว่นแก้วเงาใสบ่ไหวคอนเหงี่ยงจ๊าย เนอ ....( ช ) ตั๋วปี้น้อย จักขอถามต๋ามกำลมเปิ้นมาเล่าอู้ว่านายมีจู๊บ้านวังสิงห์คำฝ่ายตางปู๊นเปิ้นมาใส่ผะจ๋ำบ้านวังสิงห์คำเปิ้นมาหมั้นก่ไว้แล้วตางฝ่ายปั้นตั๋วน้องนางแว่นแก้วก่ตกลงแล้วบ่ใจ้กาหาเปิ้นจะกิ๋นแขกแต่งก๋าน ก่วิวาห์เมื่อใดจาปี้น้อยใคร่ฮู้เก๊าส่วนไจยาบ่สมเปิงเจ้าเพราะเขียมข้าวของเงินทองฝ่ายตางนายบ่หมายเกี่ยวข้องมาละหมองต่ำก๊อย เนอ ....( ญ ) ตั๋วน้องนี้บ่ลาไหลหลงก๋านตกลงก่ยังบ่แล้วจึงเจินตั๋วปี้มาห้วยแก้วเพราะใคร่ฮู้กำฟู่กำจาจึ่งเจินหน้อยปี้มาเปิ๊กษาจะว่าใดจาตั๋วน้องก่ใคร่ฮู้ก๋าน..ตี้มาฟู่อู้จะเอาเป๋นจู๊กาว่าเอาเป๋นเมียหรือจักลบล้างลืมลายหน่ายเสียบ่เอาเป๋นเมียหรือจักทิ้งเสียแล้วหรือเอาเป๋นเมียนางจ๊างแก้วอยู่เป๋นกู้ข้างเตียมคิงขอบอกนายหื้อแน่ใจจริงบ่อำพรางนาถน้อง เนอ ....( ช ) บ่จุ๊หลอกน้องหื้อหม่นหมองหมางบ่ล่อลวงพรางแม่นางฮ่างแค๊วปี้หมายเอาเป๋นเมียนางจ๊างแก้วบ่หื้อคลาดแคล้วเรื่องกำสิเนหลอนแก้วน้องใจยังบ่เหวเตี้ยงสมคะเนเหมือนปี้กึ๊ดเล่าหลอนปี้จุ๊ก่ยังล่ายเจ้าขอหื้อฟ้าผ่าหัวแม่เมียต๋ายลูกแม่ญิงอู้เล่นก่บ่ดายลูกป้อจายอู้แต๊ก่บ่ปังหลอนนายต๋ายไปเป๋นไก่ตั้งปี้น้อยจักต๋ายเป๋นคืนฟู่บ่ถูกวันพูกก่บ่ขืนฟู่มะคืนตึงบ่ขืนเมื่อเจ๊าก๋านฮักกั๋นหองข้าตึงเจ้าเผียบเหมือนเหล้ากับปางปากกำใดปี้ก่ตึงอ้างบ่ใจ๊จ๋างจากน้อง เนอ ...( ญ ) หลอนว่าแต๊เหมินดั่งกำจาน้องขอสัญญากับตั๋วปี้น้อยบ่ขอฮักไผสักเต้าเกิ่งก้อยขอฮักปี้น้อยไจยานี้ก่คนเดียวคนอื่นนับร้อยตึงบ่แลบ่เหลียวจะขอฮักเดวจายเดวก่เท่านี้หลอนว่าน้องจุ๊หรือสับปะลี่ขอหื้อฟ้าผ่าหัวป้อผัวต๋ายลูกแม่ญิงบ่ไจ้ว่าบ่ดายลูกป้อจายขี้จุ๊ก่แต๊ แต๊กิ๋นก่ยังตึงแก้ สะเลียมยำใส่แย้บะเขือแจ้ยำใส่เตากอนปี้น้อยไจยาฮักแต๊ข้าเจ้าก่ยินดีจิ่ม แต๊ ..... เนอ

เทคนิกการพูดภาษาญี่ปุ่น

วันนี้จะมานำเสนอคำที่ใช้พูดก่อนรัปประทานอาหารและหลังรับประทานอาหารของคนญี่ปุ่นค่ะ ซึ่งถือเป็นมารยาทของคนญี่ปุ่นเลยนะคะ ถ้าใครไม่พูดก็จะดูเหมือนเป็นการเสียมารยาทอ่ะค่ะ จำสองคำนี้เอาไว้เผื่อไปญี่ปุ่นจะได้นำไปใช้กันนะคะ ^^ เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ++ก่อนที่คนญี่ปุ่นจะรับประทานอาหาร(ก่อนกินข้าว)จะพูดคำว่า
いただきます。=> itadakimasu => อิตะดะคิมัสแปลว่า จะรับประทานอาหารแล้วนะครับ / นะคะ++และหลังจากที่เรารับประทานอาหารเสร็จแล้ว(หลังกินข้าว)ก็จะต้องพูดคำว่า
ごちそうさまでした。=> gochisousamadeshita => โกะจิโซซะมะเดะชิตะแปลว่า ขอบคุณมากครับ / ค่ะ (เป็นการขอบคุณที่ให้ข้าวเรากิน ประมาณนั้น)
Comments (0) 11/27/2008

การนับเลขในภาษาญี่ปุ่น ภาค3
Posted by Muzic@studio Filed under
ต่อไปจะเป็นการนับเลขใน หลักร้อย หลักหมื่น หลักแสน หลักล้าน ... ค่ะ100 => 百 => hya-ku101 (one-hundred and one) => 百一 => hya-ku-i-chi1,000 (one-thousand) => 千 => sen1,010 (one-thousand and ten) => 千十 => sen-juu10,000 (ten-thousand) => 一万 => i-chi-man100,000 (hundred-thousand) => 十万 => juu-man1,000,000 (one-million) => 百万 => hya-ku-man10,000,000 (ten-million) => 千万 => sen-man100,000,000 (hundred-million) => 億 => o-ku
Comments (0) 11/20/2008

การนับเลขในภาษาญี่ปุ่น ภาค2
Posted by Muzic@studio Filed under
เมื่อวานหัดนับ 1-10 กันไปแล้ว วันนี้มานับเลขที่เกิน 10 กันต่อเลยดีกว่านะคะ11 >>> 十一 <<<++>>>>>>> จูอิจิ12 >>> 十二 <<<++>>>>>>> จูนิ13 >>> 十三 <<<++>>>>>>> จูซัน14 >>> 十四 <<<++>>>>>>> จูยน15 >>> 十五 <<<++>>>>>>> จูโงะ16 >>> 十六 <<<++>>>>>>> จูโระคุ17 >>> 十七 <<<++>>>>>>> จูชิจิ18 >>> 十八 <<<++>>>>>>> จูฮะจิ19 >>> 十九 <<<++>>>>>>> จูคิว20 >>> 二十 <<<++>>>>>>> นิจู-----------------------------------------------------------------------------พูดง่ายๆก็คือ จู + ตัวเลขหลักหน่วย20 >>> 二十 <<< นิจูนิ + ตัวเลขหลักหน่วย30 >>> 三十 <<< ซันจูซัน + ตัวเลขหลักหน่วย40 >>> 四十 <<< ยนจู................."......................................"......................................"......................................".....................90 >>> 九十 <<< คิวจูคิว + ตัวเลขหลักหน่วย
Comments (0) 11/19/2008

การนับเลขในภาษาญี่ปุ่น
Posted by Muzic@studio Filed under
วันนี้มาหัดนับเลขกันนะคะ มาเริ่มกันที่ 1 ถึง 10 ก่อนเลย ^^
++ 数字 => suuji => ตัวเลข ++
0 >>> 〇 <<<++>>>>>>> เซะโระ1 >>> 一 <<<++>>>>>>> อิจิ2 >>> 二 <<<++>>>>>>> นิ3 >>> 三 <<<++>>>>>>> ซัน4 >>> 四 <<<++>>>>>>> ชิ / ยน5 >>> 五 <<<++>>>>>>> โกะ6 >>> 六 <<<++>>>>>>> โระคุ7 >>> 七 <<<++>>>>>>> ชิจิ / นะน่ะ8 >>> 八 <<<++>>>>>>> ฮะจิ9 >>> 九 <<<++>>>>>>> คุ / คิว10 >>> 十 <<<++>>>>>> จู
สำหรับเลขที่สามารถอ่านได้ 2 แบบนั้น เราก็ต้องจำทั้ง 2 แบบเลยนะคะ ได้ใช้แน่นอนค่ะ
Comments (0) 11/18/2008

คำว่า "ขอโทษ" ในภาษาญี่ปุ่น
Posted by Muzic@studio Filed under
วันนี้ขอเสนอคำว่า "ขอโทษ" ในภาษาญี่ปุ่นค่ะ
ขอโทษ => あやまる => ayamaru>>>คำแรกคือคำว่า
ごめんなさい。 => gomennasai => โกะเมนนะไซมีความหมายว่า "ขอโทษครับ / ค่ะ" ใช้ในกรณีที่เราทำผิด หรือต้องการที่จะแสดงความรู้สึกเสียใจ ความรู้สึกรับผิดชอบในสิ่งที่เราทำค่ะ เหมือนคำว่า sorry ในภาษาอังกฤษ แต่หากพูดกับเพื่อนด้วยกัน อาจลดคำลงเหลือแค่คำว่า
ごめん => gomen => โกะเมนก็สามารถใช้ได้ค่ะ แต่จะดูห้วนๆ แบบว่า ขอโทษ โทษที ประมาณนั้นค่ะ หรืออาจจะเป็นคำว่า
ごめんね => gomenne => โกะเมนเนะเอา เนะ มาต่อท้ายเป็นสร้อยเพื่อไม่ให้ประโยคดูห้วนเกินไป มีความหมายว่า "ขอโทษนะ" ค่ะ>>>คำว่า "ขอโทษ" ในแบบที่สองคือคำว่า
すみません。 => sumimasen => สุมิมะเซงมีความหมายว่า "ขอโทษครับ / ค่ะ" เช่นกัน แต่จะใช้ในกรณีที่เราต้องการจะทำอะไรซักอย่างที่เป็นการรบกวน หรือขัดจังหวะของเขา หรือเธอคนนั้นค่ะ เช่น "ขอโทษครับ ผมขอเก้าอี้ตัวนี้ได้มั้ยครับ" แบบนี้ค่ะ เหมือนคำว่า Excuse me ในภาษาอังกฤษค่ะ และคำว่า
もうしわけ ありません。 => moushiwake arimasen => โมชิวะเคะ อะริมะเซนก็มีความหมายเช่นเดียวกันกับคำว่า สุมิมะเซง ค่ะ แต่จะดูสุภาพกว่า สามารถใช้แทนกันได้ค่ะ
Comments (0) 10/31/2008

การแนะนำตัวเองเป็นภาษาญี่ปุ่น
Posted by Muzic@studio Filed under
การแนะนำตัวเอง => じこしょうかい => jikoshoukai>>แบบแรกนะคะ เป็นการแนะนำตัวเองแบบทางการค่ะ (แบบสุภาพนั่นเอง ใช้กับคนที่อายุมากกว่า หรือคนที่เราเคารพนับถืออ่ะค่ะ)>>>>การเจอกันครั้งแรก คำว่า สวัสดี จะใช้คำว่า
はじめまして。=> hajimemashite => ฮาจิเมะมะชิเตะ>>>>จากนั้นเราก็จะตามด้วยชื่อนะคะ พูดได้อย่างนี้ค่ะ (สมมติว่าชื่อ "ฮายาชิ" นะคะ)
はやしです。=> hayashidesu => ฮายาชิเดส
ซึ่งก็คือ "ชื่อ + เดส" นั่นเองค่ะ>>>>แล้วก็จะปิดท้ายด้วยประโยคนี้ค่ะ
どうぞよろしく おねがいします。=> douzoyoroshiku onegaishimasu => โดโซะโยะโระชิกุ โอเนะไงชิมัส
ซึ่งแปลว่า ยินดีที่ได้รู้จักครับ / ค่ะ
มาดูตัวอย่างแบบเต็มๆกันดีกว่าค่ะ
"สวัสดีครับ ผมชื่อฮายาชิ ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
はじめまして。はやしです。どうぞよろしく おねがいします。>>ส่วนแบบที่สองนะคะก็จะเป็นการแนะนำตัวเองแบบไม่เป็นทางการ (ใช้กับคนที่อายุน้อยกว่า หรืออายุเท่าๆกันค่ะ)>>>>การเจอกันครั้งแรก คำว่า สวัสดี จะใช้เหมือนแบบแรกเลยค่ะ ก็คือคำว่า
はじめまして。=> hajimemashite => ฮาจิเมะมะชิเตะ>>>>จากนั้นเราก็จะตามด้วยชื่อนะคะ พูดได้อย่างนี้ค่ะ (สมมติว่าชื่อ "ฮายาชิ" นะคะ)
はやしです。=> hayashidesu => ฮายาชิเดส>>>>แล้วก็จะปิดท้ายด้วยประโยคนี้ค่ะ
どうぞよろしく。=> douzoyoroshiku => โดโซะโยะโระชิกุ
ซึ่งแปลว่า ยินดีที่ได้รู้จักนะ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าไม่มีคำว่า โอเนะไงชิมัส แล้วนะคะ
มาดูตัวอย่างแบบเต็มๆกันอีกครั้งเลยค่ะ
"สวัสดีครับ ผมชื่อฮายาชิ ยินดีที่ได้รู้จักนะ"
はじめまして。はやしです。どうぞよろしく。
Comments (0) 10/30/2008

การบอกลาแบบง่ายๆ ในภาษาญี่ปุ่น
Posted by Muzic@studio Filed under
หลังจากรู้จักกับการทักทายในสไตล์ญี่ปุ่นกันไปแล้วนะคะ วันนี้เราก็จะมารู้จักการบอกลาที่ใช้กันทั่วไปของคนญี่ปุ่นกันบ้างนะคะ>>>คำแรกก็คือคำว่า
さようなら => sayounara หรือ sayonara => ซาโยนาระมีความหมายว่า "ลาก่อน" คนไทยอาจไม่คุ้นกับคำว่าลาก่อน เนื่องจากมันจะดูเศร้าๆ สำหรับคนญี่ปุ่นก็เช่นกัน คำว่า ซาโยนาระ ใช้ในกรณีที่ต้องจากกันโดยที่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีกหรือไม่ หรืออาจจะใช้เมื่อต้องการที่จะประชดประชันแบบว่า "อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกนะ" เหมือนเวลาพระเอกกับนางเอกในการ์ตูนญี่ปุ่นเค้างอนกัน หรือบอกเลิกกันนั่นเอง >>>มาต่อกันที่คำว่า
またあいましょう => mataaimasho => มาตะไอมาโช่มีความหมายว่า "แล้วเจอกันอีกนะ" เป็นการบอกลาที่ใช้ได้ทั่วไปค่ะ และยังมีความสุภาพ สามารถใช้จบการสนทนาได้อย่างมีมารยาท ถึงแม้ว่าเราจะได้เจอเขาอีกหรือไม่ก็ตามค่ะ>>>และคำสุดท้ายของวันนี้คือคำว่า
じゃ、またね => ja, matane => จา, มะตะเนะมีความหมายว่า "บาย แล้วเจอกันอีกนะ" เป็นคำง่ายๆค่ะ ใช้แล้วดูน่ารัก เป็นกันเอง หากเพื่อนๆนึกภาพไม่ออก ก็ให้นึกถึงเวลาที่เราบอกลาเพื่อนเวลาเลิกเรียน หรือเลิกงานค่ะ

Sid Vicious แห่ง Sex Pistols

2 มกราคม 2551, 2:46:56 ภานุพงศ์ วิสัยดี ซิด วิเชียสชื่อจริงคือ จอห์น ซิมอน ริทชี่ (เขียนถูกป่าววะ ตกไทย!!)เกิด : 10 พฤษภา 1957 ( พ.ศ. 2500)และ...จากไป...2 กุมภา 1979 (พ.ศ. 2522)สถานที่ ที่ท่านจากไป...ที่นิวยอร์คขอรับ...สาเหตุการตาย...Overdose (การกินยามากเกินขนาด..บอกก่อนนะใครอ่านถึงตรงนี้แล้วนึกในใจหรือพูดประมาณว่า สมควรแล้ว! กรุณาขอเคลียร์ ข้าน้อยเจอมาเยอะ!)สถานที่ฝัง...อยู่ใกล้กับหลุมศของแนนซี่ สปันเจน (แก้วตาดวงใจของซิด...)พื้นเพ : ชนผิวขาวอาชีพ : นักดนตรี สัญชาติ..อังกฤษ................................เริ่มเล่าเลยนะขอรับ ทุกส่วนต่อไปนี้ข้าน้อยแปลมาด้วยตัวเอง ดังนั้นอย่าคาดหวังมากเกินไปหากผิดก็ช่วยบอกด้วย ...ตัวอย่างของคนที่มีชื่อเสียงที่ชอบความรุนแรง ทรมานและทำลาย...และหนึ่งในยุคของพังค์ (ท่อนนี้ข้าน้อยไม่แน่ใจ มันแปร่งๆแต่พยายามเรียบเรียง อย่าเพิ่งรำคาญข้อความในวงเล็บ เพราะมันจะมีอีกเยอะ ข้าน้อยจะคอยอธิบายและชี้แจง) จอห์น ซิมอน ริทชี่หรือซิด วิเชียสไม่ได้รับการศึกษาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยที่ถูกที่ควร เขาใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบเกินไป...แม่ของเขา "แอนนี่" ใช้เฮโรอีนและขายในบางครั้ง ดังนั้นทั้งหมดจึงเป็นสิ่งที่ซิดเห็นและคลุกคลีมาตลอดชั่วชีวิตในวัยเด็ก...พ่อของซิดเป็นทหารกองทัพบกชื่อว่าจอห์น ริทชี่...ช่วงเวลาสั้นๆหลังจากซิดเกิดและพ่อเลี้ยงคนของเขา (ตรงนี้งงว่าแล้วพ่อแท้ๆไปไหน) คริสโตเฟอร์ เบเวอร์รี่ตายหลังจากนั้นเพียงหกเดือน ทิ้งให้แอนนี่เลี้ยงซิดเพียงลำพัง...ในระยะเวลาอันสั้นทีแอนนี่ใช้ชีวิตอย่างเหลวไหลในช่วงการแต่งงานครั้งแรก เธอย้ายไปอยู่ที่เสปน ก่อนจะกลับมาอังกฤษในปี 1965 ก่อนที่จะเกิดการแต่งงานครั้งที่สอง...และใช้ชีวิตในเคนท์หลายปีก่อนจะย้ายไปยัง แฮคเนย์ ในปี 1971...ตอนนั้นซิดทำความรู้จักกับจอห์น ลีดัน...ซิดเข้าไปพัวพันกับยาเสพติดและมีชื่อเสียงหลังจากนั้นไม่กี่ปี...ในที่สุดซิดก็หยุดเรียนและออกมาใช้ชีวิตที่เหมือนกับนำไปแขวนไว้...เล่นดนตรีพังค์ ออกงานกับจอห์น ลีดัน ที่ในตอนนี้คือจอห์นนี่ รอทเทน...ช่วงซัมเมอร์ 1976 ซิดกลายเป็นสมาชิกวง The Flower of Romance (ช่วงนี้ข้ามๆเพราะแปลยากมาก) จอห์น ซิมอน ริทชี่เลือกชื่อตัวเองใหม่เป็นซิด วิเชียสเพื่อความโดดเด่น..และต่อมาเขาก็เป็นปรปักษ์ต่อพวกมนุษย์...1977 ซิดเข้ามาในวง Sex pistols (เริ่มสำคัญ..) ในนี้บอกว่าเขาไม่ใช่คนเก่งอะไร และมีข้อบกพร่องในการเล่นแต่ก็พยายาม (อันหลังเติมเองขอรับ ^^)เซ็กส์พิสตอลเริ่มโด่งดัง...วางตัวและพูดจาหยาบคาย...แม้จะในรายการทีวี เขาออกซิงเกิ้ล Anarchy (แปลว่าลัทธิอนาธิปไตย) และออกซิงเกิ้ลมาเรื่อยๆ เพลงฮิตติดชาร์จด้วย...ในเดือนตุลา วงเซ็กส์พิสตอลออกโรงเต็มตัว...แล้วซิดก็พบกับแนนซี่...กลุ่มคนเล่นยาและคลั่งไคล้ดาราจากนิวยอร์คมาที่ลอนดอนโดยมีเจนตาจะลั่นกุญแจไว้ที่ชาวพังค์ผู้มีชื่อเสียง...(มันพูดแบบนี้หมายความว่าไงฟระ? อย่างกับด่าแนนซี่)และจุดมุ่งหมายของแนนซี่ก็คือซิด...ประมาณว่าซิดคือคนที่เข้าถึงง่ายที่สุด...ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก่อให้เกิดปัญหาภายในวง ซิดมีปัญหากับสมาชิกคนอื่นๆ ลีดันบีบคั้นให้เขาเลิกคบกับแนนซี่และเลิกยุ่งกับยา แต่ซิดก็ไม่ทำทั้งสองอย่าง...(อ่านถึงตรงนี้แล้วร้องไห่เปล่า...อย่า...อย่าเพิ่ง...ยังมีให้เศร้ากว่านั้น)1978 เซ็กส์พิสตอลทัวร์อเมริกา ต่อมาที่วินเทอร์แลนด์ในซานฟรานซิสโกก็ประกาศออกมามาเกี่ยวกับความเหลวไหลของวง (น่าเตะว่ะ) ในช่วงทัวร์ทั้งหมดนั้นซิดไม่ยอมออกห่างจากแนนซี่เลย...(รักกกันสุดยอด)ต่อมาก็ประมาณว่าซิดเริ่มออกซิงเกิ้ลเพลงที่ร้องเองในปี 1979 ช่วงนี้น่าสงสารมาก ทั้งคู่ตกอยู่ในภาวะแบบขัดสน...ในขณะที่ซิดพยายามกับงานเพลงของตัวเองก็เกิดเหตุ...ซิดถูกจับในข้อหาฆ่าแนนซี่...ในอพาร์ตเมนท์...ศพถูกแทง...ซิดจำอะไรไม่ได้เลย...(ตอนนี้มีฉุน ในประวัติพูดว่านักดนตรีงี่เง่าสมองกลวง มันด่าซิด!! สาดด) ตำรวจพบตัวซิดในขณะที่กำลังเดินเตร็ดเตร่ในโรงแรม...Virgin Record ประกันตัวซิดออกมา (ตรงนี้ไม่แน่ใจ) เขาพยายามกรีดมือฆ่าตัวตายหลายครั้ง...จนในที่สุดเขาก็จากไป...ในวันที่ 2 กุมภาในบ้านของมิเชล โรบินสัน แฟนใหม่...ซิดขอกับแม่ไว้ว่าให้ฝังเขาใกล้กับแนนซี่...ประวัติของมือเบสวง sexpistols2 มกราคม 2551, 2:41:00 ภานุพงศ์ วิสัยดี Simon John Ritchie-Beverly เข้าแทน Glen Matlock ปี 1976หรือที่รู้จักกันในนาม Sid Viciousเกิดวันที่ May 10, 1957London, England เข้าวงเนื่องจากเป็นแฟนของวงSexpistol นิสัยของเค้าคือเขาติดยาและภายหลังเขาเสียชีวิตด้วยอาการ drug overdose ในวัยแค่21ปีจะเป็นประวัตินักดนตรีของวงที่เหลือ26 ธันวาคม 2550, 7:05:18 ภานุพงศ์ วิสัยดี 1.Johnny Rotten เกิดที่ลอนดอนประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 31 มกราคม 1956 หรือที่รู้จักกันในชื่อJohnny Rottenเขาเป็นชาวBritishเติบโตที่ลอนดอนเหนือกับน้องชาย 3คนเมื่ออายุได้แค่7ขวบก็ได้เกิดอาการโคม่าขึ้นทำให้เขาได้ได้ลบเลือนความทรงจำบางอย่างในชีวิตไป ภรรยาชื่อNora Forsterเขาเป็นคนร้องนำให้แก่วงSexpistol 2.Stephen Phillip Jones มือกีต้าร์ผู้เล่นได้มันนส์เสียเหลือเกินหรือที่รูจักกันในชื่อSteve Jonesเกิดวันที่ 3 พฤษภาคม(อิอิวันเดียวกับผมเลย) 1955นอกจากจะเป็นมือกีต้าร์แล้วเค้ายังเป็นนักร้องด้วย Jonesเกิดที่ประเทศอังกฤษในFebruary 2004 Jonesได้จัดสถานีJuxeboxเป็นของตัวเองอีกด้วยโดยใช้ชื่อว่าJonesy's Jukebox 3.Paul Cook เกิด20กรกฎาคม 1956เกิดที่ Hammersmith ลอนดอน ประเทศอังกฤษเข้าศึกษาที่Christopher Wren ซึ่งเป็นที่ ๆเขาได้เจอกับ Steve Jones. Paulเป็นสมาชิกคนแรกของวง ในปี 1978ซึ่งเป็นปีที่Sex pistolได้กำเนิดขึ้นเขาได้ทำ Malcolm McLaren's film, The Great Rock 'n' Roll Swindleร่วมกับJones ปัจจุบันไม่ได้อยู่ในวงแล้ว 4.Glen Matlock เกิดวันที่ 27 สิงหาคมปี 1956ลอนดอนตะวันตกประเทศอังกฤษเขาเป็นมือเบสและนักแต่งเพลงที่ดีเขาเป็นคนแต่ง 10 ใน 12เพลงในอัลบั้มNever Mind the Bollocks, Here's the Sex Pistols, เขาได้ออกจากวงแล้วแต่ได้ร่วมทัวร์คอนเสิร์ตในปี1996 - 2002 -2003ปัจจุบันอยู่ในวงthe Philistines☆:: [ Sid Vicious ] :: ☆Sid Vicious คือมือเบสแห่งวง Sex Pistols วงพั้งค์ร็อคชื่อดังจากเกาะอังกฤษที่ยังคงโด่งดัง มาจนถึงปัจจุบัน แต่เปนที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เขาได้จากโลกนี้ไปแล้วในปี ค.ศ. 1979 หรือด้วยวัยเพียง 21 ปี เนื่องจากเสพยาเฮโรอีนเกินขนาด Sid Vicious ไม่ได้มีชื่อเสียงในเรื่องฝีมือการ เล่นเบสที่เก่งกาจจนใครๆต่างยกย่อง เขาเข้ามา ในวง Sex Pistols ได้เพราะมีหน้าตาอันหล่อเหลา และมาดที่ดูเท่บอกกับมีลีลาในการเล่นคอนเสิร์ตที่ รุนแรงและโลดโผน สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้ Johnny Rotten หัวหน้าวง Sex Pistols ถูกใจในตัวเขาและชวนให้เข้ามาเปนส่วนหนึ่ง ของวงในตำแหน่งมือเบส นั่นคือจุดเริ่มต้นใน วงการดนตรีของเขา แค่เพียงปีเดียวเท่านั้น Sex Pistols ก้อลุกขึ้นมาผงาดเหนือวงอื่นๆ การแสดงสดที่เข้าถึงอารมณ์ ทั้งกราดเกรี้ยวและดุดัน อีกทั้งพฤติกรรมอันท้าทายสถาบันและต่อต้าน สังคมอย่างเปิดเผยของสมาชิกวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมือเบสอายุแสนสั้นที่ชื่อว่า Sid Vicious ซิด วิเชียส มีชื่อจิงว่า จอห์น ไซมอน ริชชี เบเวอร์ลี ((John Simon Ritchie-Beverly)) เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2500 ณ กรุงลอนดอน ประเทษอังกฤษ มารดาชื่อ แอนน์ ((Anne)) บิดาชื่อ จอห์น ((John)) ซิดได้ชื่อว่าเปนสมาชิกวง Sex Pistols ที่อื้อฉาวและโด่งดังที่สุด เพราะมีบุคลิก ขวางโลกและติดยาเสพติดอย่างเปิดเผย โดยเฉพาะเฮโรอีน บุคลิกต่อต้านสังคมและนิสัยขวางโลก ของซิดอาจเปนผลมาจากชีวิตวัยเด็ก ที่ขาดความมั่นคงและความอบอุ่นจาก ครอบครัว จอห์นผู้เปนบิดาได้ทิ้ง ครอบครัวไปตั้งแต่ซิดยังเปนทารกแบเบาะ ซิดจึงต้องย้ายตามมารดาไปอยู่ที่เกาะอีบิซ่า ประเทศสเปน และเฝ้ามองมารดาหาเงิน เลี้ยงชีพด้วยการขายยาเสพติดตั้งแต่เล็ก จนถึงปี พ.ศ. 2514 สองแม่ลูกจึงย้ายมาอยู่ที่ แฮคนีย์ ((Hackney)) ทางตะวันออกของลอนดอน และ ณ ที่นี่เอง ซิดได้พบกับจอห์น ไลดอน ((John Lydon)) เพื่อนนักเรียนในวิทยาลัยเทคนิดแฮคนีย์ ซึ่งต่อมาเปนที่รู้จักในฉายา จอห์นนี่ รอทเทน (( Johnny Rotten)) นักร้องนำวง Sex Pistol นับตั้งแค่นั้นซิด ก้อเริ่มใช้ยาเสพติดโดยมักจะเสพพร้อมกับแอนน์ ผู้เปนมารดาและทำร้ายตนเองอยู่บ่อยครั้ง วง Sex Pistols นั่นก่อตั้งขึ้นจิงเมื่อปี พ.ศ. 2515 ซิดได้เข้าเปนสมาชิกวง Sex Pistols เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2520 ช่วงเวลาที่ซิดเข้ามา เปนสมาชิกวง Sex Pistols เปนที่รู้จักอย่างดีทั่วสหราช อาณาจักรรวมถึงอเมริกาอยู่แล้ว ซิดซึ่งขณะนั้นอายุเพียง 19 ปี จึงถูกชื่อเสียงถาโถมเข้าใส่โดยไม่ทันตั้งตัว ครั้นซิดต้องประสบกับแรงกดดันต่างๆ ในฐานะนักร้องดัง จึงยิ่งถูกบีบคั้นให้เข้าหายาเสพติด วังวนชองยาเสพติดดังกล่าวทำให้ซิดไม่เพียงทำร้ายตัวเอง แต่ยังทำร้ายแฟนเพลงและผู้สื่อข่าวอยู่เปนนิจ :: [ แนนซี่ แฟนสาวผู้เปนที่รักของซิด .. ] :: ความรักครั้งแรกของซิด วิเชียส เกิดกับหญิงสาวอเมริกันที่ชื่อว่า แนนซี่ สปันเจน ((Nancy Spungen)) แนนซี่เปนสาวกผู้คลั่งไคล้วงดนตรีร็อค เทอใฝ่ฝันอยากจะเปนคนรักของศิลปินเพลงร็อคชื่อดัง จึงย้ายจากนิวยอร์คมาอยู่ใกล้ชิกวงดนตรีร็อค ทั้งหลายที่ลอนดอน ฝันของเทอเปนจิง เมื่อซิดได้พบกับเทอที่ห้องพักของเพื่อนคนหนึ่ง ไม่นานทั้งสองคนก้อย้ายมาอยู่ร่วมกันในฐานะคนรัก ทั้งเทอและซิดต่างก้อใช้ยาเสพติดและติดเฮโรอีนอย่างหนัก จนแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวหยาบคายในที่สาธารณะอยู่เสมอ ทั้งคู่ต่างหมกมุ่นอยุ่กับการเสพเฮโรอีนและมักมีเรื่อง ทะเลาะเบาะแว้งจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายกัน เมื่อให้สัมภาษณ์ออกทีวีก้อจะอยู่ในสภาพเมามายแทบคงสติไม่อยู่ :: [ การจากไปอย่างไม่มีวันกลับของแนนซี่ .. ] :: เช้าวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2521 ความสัมพันธ์นี้ก้อพบกับจุดจบอันหน้าเศร้า เมื่อซิดตื่นขึ้นมาพบกับแนนซี่นอนสิ้นอยู่ บนพือนห้องน้ำในห้องพักหมายเลข 100 ณ โรงแรมเชลซีในนิวยอร์ค เทอตายเพราะ เสียเลือดจากแผลถูกแทงที่หน้าท้อง ซิดซึ่งเมาเฮโรอีนตลอดเวลาไม่ สามารถจดจำได้ว่าตัวเองเปนผู้ลงมือหรือไม่ แต่ก้อถูกตำรวจจับและตั้งข้อหาฆาตกรรมทันที เวลานั้นมีทั้งผู้ที่เชื่อว่าซิดฆาตกรรมคนรักขณะ มึนเมาเฮโรอีน และก้อมีที่เชื่อว่าฆาตกรอาจเปน พ่อค้ายาเสพติดที่เข้าออกห้องพักนี้เปนประจำ หลังจากถูกควบคุมขัง ซิดก้อถูกส่งตัวไปบำบัดการ เลิกยาเสพติดที่โรงพยาบาลในสถานที่คุมขังที่เบลาวู เพราะตอนนั้นซิดกำลังติดเฮโรอีนอย่างหนัก ' แนนซี่อยู่ในความคิดผมตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน ผมตื่นขึ้นมากลางดึกเอื้อมมือหาเทอ หาร่างอบอุ่นที่ผมประคองกอดทุกคืนตลิดสองปีเต็ม ผมเหงื่อออกร้อนผ่าวไปทั้งตัว ผมฝันว่าได้รักเทออีกครั้ง รสสัมผัสที่ยังตราตรึงทำให้ผมแทบคลั่ง แนนซี่ในชุดนอนเซ็กซี่สีแดงดำไม่เคยเลือนหายไปจากความคิด ผมไม่มีวันฆ่าเทอได้ลง ถ้าคุนรักใครซักคนมากเท่าที่ผมรักแนนซี่ คุนจะไม่มีวันฆ่าเทอได้เลย ผมคิดถึงเวลาแห่งความสุขของเราสองคน แนนซี่มีความหมายสำหรับผม เพราะ เราเหมือนกัน ' ราวกับเปนการแสดงอารมณ์อ่อนไหวเพื่อปลอบใจตัวเอง หรือเปนเพราะยาเสพติดที่หลอนประสาทของซิด หรือเพราะส่วนลึกของเขายังไม่ยอมรับความจิง หรือเพราะอะไรๆอีกหลายอย่าง แต่สิ่งที่เหนได้ชัดเจนคือ ซิดและแนนซี่ถูกพันธนาการไว้ให้อยู่คู่กัน ยากที่คนอื่นจะเข้าใจในสิ่งที่เค้าทั้งสองคนเปนอยู่ :: [ จุดจบของซิด .. ] :: หลังจากถูกคุมขังและต้องเข้าบำบัด อาการยาเสพติดเปนเวลา 5 เดือน ในเรื่อนจำไรเกอร์ส ไอส์แลนด์ ((Rigers Island)) เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522 เมื่อซิดได้รับการปล่อยตัว มารดาและเพื่อนๆ ของเขาตั้งใจจะจัดงานเลี้ยงให้กับ ซิดเพื่อนเปนการฉลอง น่าเสียดายที่งานเลี้ยงนี้กลับ เปนงานสุดท้ายในชีวิตของซิด แม้เขาจะขอยกเลิก เพราะต้องการพักผ่อน วันนั้นซิดเข้านอนเร็วและ เสพเฮโรอีนเข้าไปเปนจำนวนมาก และเนื่องจาก ร่างกายเขาไม่ได้รับยามานานจึงทำให้ร่างกายรับไม่ไหว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ซิดเคยใช้ยามานาน ซิดเคยบอกกับมารดาว่า ' แม่ แนนซี่กำลังรอผมอยู่ ถ้าผมรีบไป ผมจะตามคนที่ผมรักได้ทัน ' มีผู้พบกลอนบทหนึ่งที่ซิดเขียนเล่า ความทรมานที่ต้องอยู่โดยไม่มี ' สาวน้อยที่น่ารักของผม' ทำให้เชื่อกันว่าซิดซึ่งเวลานั้นอายุ 21 ปี โศกเศร้าที่แนนซี่ ผู้เปนคนรักได้จากไปจึงเสพยาเกินขนาดเพื่อฆ่าตัวตาย การเสียชีวิตเมืออายุยังน้อยนับเปนจุดจบอันน่าเวทนาสำหรับซิด เด็กหนุ่มผู้นิยมดนตรีพั้งค์ตราบจนปัจจุบัน ความปรารถนาก่อนจากไปของซิดคือ การได้ฝังร่างของตนไว้เคียงข้างกับแนนซี่ แต่ครอบครัวของเทอกลับปฏิเสธที่จะบอก สถานที่ตั้งหลุมฝังศพของเทอ แต่มีผู้กล่าวไว้ว่า มารดาของซิดได้นำอิฐิของเขาไม่โปรยไว้ที่ หลุมฝังศพของแนนซี่ในค่ำคืนหนึ่ง และนี่คือบทกลอนที่วิดได้มอบให้กับแนนซี่ก่อนที่เข้าจะตาย .... . ... . You are my little baby girl, We share all our fears. Such joy to hold you in my arms And kiss away all your tears. But now you're gone, There's only the pain And nothing i can do about it. And i don't want to live this life any more, If i can't live for you. To my beautiful baby girl, Our love will never die .. สาวน้อยที่น่ารักของฉัน เราร่วมกันเผชิญทุกความกลัว การมีตัวเทออยู่ในอ้อมกอดช่างสุขสันต์ เมื่อฉันได้จูบซับน้ำตาของเทอ แค่เทอกลับจากฉันไป ทิ้งไว้เพียงความปวดร้าวแสนจะทน ฉันหมดหนทางจะทำสิ่งใด และฉันก้อไม่อยากมีชีวิตอยู่ต้อไป ถ้าฉันไม่ได้อยู่เพื่อเคียงข้างเทอ ถึงเทอผู้ปนที่รัก รักของเราจะไม่มีวันตาย ..